หน้า 31 จาก 31
หน้า 31
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
'กูเกิ้ลกลาส'กับสุนัข
ท่ามกลางการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ ของแฟนคลับกูเกิ้ล กับกล้องอัจฉริยะ 'กูเกิ้ลกลาส' ที่เตรียมวางขายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านั้น
ล่าสุด มีความเคลื่อนไหวที่ต่อยอดมาจากอุปกรณ์ดังกล่าว กับไอเดียในการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ที่ทำงานร่วมกับกูเกิ้ล กลาส ให้กับสุนัข เพื่อใช้ประโยชน์ในด้านการค้นหายาเสพติด, วัตถุระเบิด และอาจเลยไปถึงปฏิบัติการทางทหาร
โดยสถาบันเทคโนโลยีแห่งจอร์เจีย สหรัฐ จับมือกับทีมงานเบื้องหลังกูเกิ้ลกลาส พัฒนาอุปกรณ์สมองกลขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งให้กับสุนัข (ดูแล้วคล้ายกับการสวมเสื้อเกราะกันกระสุน แต่พ่วงตัวอุปกรณ์เข้าไปด้วย)
โครงการดังกล่าวมีชื่อว่า ไฟโด FIDO (Facilitating Interactions for Dogs with Occupations) ตั้งเป้าให้เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มีทั้งกล้องและเซ็นเซอร์
เพื่อให้ผู้ควบคุม สามารถมองเห็นภาพในมุมมองของสุนัข รวมทั้งอ่านค่าชนิดของวัตถุผ่านการดมหรือเลีย ไปจนถึงการฟังสรรพเสียงในสภาพแวดล้อมรอบตัวสุนัขได้อีกด้วย
และทีเด็ดอยู่ที่ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งตรงเข้าสู่แว่นกูเกิ้ลกลาส ที่คนควบคุมสวมใส่
คล้ายกับการเข้าสิงร่างสุนัขกันเลยทีเดียว!
ส่วน 'การออกคำสั่ง' ของผู้ควบคุมจะกระทำผ่านไวเบรเตอร์ที่ติดตั้งไว้ที่ตัวอุปกรณ์...เอาไว้สั่งซ้ายหัน-ขวาหันว่างั้น
อย่างไรก็ดี ทางทีมพัฒนาระบุว่า ทั้งคนทั้งสัตว์ต้องผ่านขั้นตอนการฝึกใช้งานพอสมควร ไม่ใช่ติดตั้งปุ๊บใช้งานได้ปั๊บ
นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียล้ำยุคจากอุปกรณ์ไอทีสมัยใหม่ในโลกทุกวันนี้
ไทยฮิตสมาร์ตโฟน อันดับ2ในอาเซียน
เว็บไซต์ ควอตซ์ รายงานว่า จีเอฟเค กรุ๊ป หนึ่งในห้าสุดยอดบริษัทวิเคราะห์การตลาดของโลก เปิดเผยผลการสำรวจความนิยม "สมาร์ตโฟน" ในประเทศ ไทย โดยพบว่า กำลังมีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ถือเป็นลำดับที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รองจากอินโดนีเซีย
จีเอฟเคระบุว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2556 คนไทยซื้อสมาร์ตโฟนไปแล้วกว่า 3 ล้านเครื่อง และคาดว่า ยอดจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 70 ในปี 2557
การสำรวจพบอีกว่า ค่าเฉลี่ยการเป็นเจ้าของ สมาร์ตโฟนของคนไทยอยู่ที่ร้อยละ 120 นั่นหมาย ความว่า คนไทยนิยมมีสมาร์ตโฟนกันมากกว่า 1 เครื่องต่อคน ขณะที่กูเกิ้ล พบว่า คนไทยใช้เวลาอยู่กับโลกไซเบอร์มากขึ้น เป็นเวลาถึง 16 ช.ม. ต่อสัปดาห์ มากกว่าค่าเฉลี่ยของคนไทยที่ชมโทรทัศน์ ซึ่งอยู่ที่ราว 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยครึ่งหนึ่งของเวลาที่ใช้ในโลกไซเบอร์ มาจากการใช้สมาร์ตโฟน
กรมอุตุฯ-สื่อไทย สัมมนาสอนภัยธรรมชาติ
กรมอุตุนิยม วิทยา ประสานงานพร้อมให้ความรู้สื่อไทย โครงการฝึกอบรมสัมมนาในหัวข้อเรื่อง "สื่อ มวลชนไทย รู้ทันภัยธรรมชาติกับกรมอุตุนิยมวิทยา" โดยมี นายประวิทย์ แจ่มปัญญา ผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศ กล่าวรายงาน และนายวร พัฒน์ ทิวถนอม อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เป็นประธานในการกล่าวเปิดการสัมมนา
นายสงกรานต์ อักษร รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา บรรยายในหัวข้อ "ภัยธรรมชาติ สู่วิกฤตโลก" ว่า ปัจจุบันยังคงมีปัญหาด้านความรู้ความเข้าใจศัพท์เฉพาะทางในการพยากรณ์อากาศต่างๆ ทำให้ความเข้าใจคลาดเคลื่อน เป็นอุปสรรคในการที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดในเชิงสังคม เศรษฐกิจ เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม
ศัพท์เทคนิค อาทิ "โดมความร้อน" ที่ประชาชนมักเข้าใจความหมายคลาดเคลื่อน ซึ่งแท้จริงแล้วโดมความร้อนเป็นการปล่อยคลื่นความร้อนสะสมจากอากาศและผิวพื้นในเมือง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศ เช่นในตอนกลางคืนและช่วงฤดูหนาว สตรอมเสิร์จ ร่องมรสุม พายุหมุนเขตร้อน เป็นต้น ดังจะเห็นได้จากการเกิดพายุทอร์นาโด ที่รัฐโอกลาฮามา สหรัฐอเมริกา เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ด้าน นายประวิทย์ แจ่มปัญญา ผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศ กล่าวในหัวข้อ "มิติใหม่กับการเตือนภัยธรรมชาติ" บรรยายถึงตัวแปรหลักที่ทำให้เกิดฝน วิธีพยากรณ์พายุ โดยการจำลองบรรยากาศในคอมพิวเตอร์ แล้วคำนวณความเป็นไปได้ของสภาพอากาศ จากหลายชุดข้อมูล ในแบบจำลองจากศูนย์พยากรณ์อากาศต่างประเทศ เช่น ศูนย์ข้อมูลสภาพอากาศยุโรป ECMWF ศูนย์ข้อมูลสภาพอากาศอังกฤษ UKMO ศูนย์ข้อมูลสภาพอากาศญี่ปุ่น JMA JTWC ศูนย์ข้อมูลสภาพอากาศเกาหลี KMA ศูนย์ข้อมูลสภาพอากาศจีน CMA รวมทั้งองค์ประกอบของการพยากรณ์อากาศ ซึ่งประกอบด้วย การตรวจอากาศ การสื่อสารข้อมูลข่าวอากาศ การวิเคราะห์ลักษณะอากาศ เป็นต้น
ทั้งนี้ บุคคลทั่วไปที่สนใจ สอบถามข้อมูลทางกรมอุตุนิยมวิทยา ในสังกัดกระทรวงไอซีทีได้ที่ 0-2399-4566 หรือเว็บไซต์ www. tmd.go.th และสอบถามข่าวพยากรณ์อากาศผ่านสายด่วน 1182
คอนโซลพันธุ์ใหม่
"เอ็นวิเดีย ชีลด์" เครื่องเล่นเกมใหม่ล่าสุด จากค่ายเอ็น วิเดีย ผู้พัฒนาชิพประมวลผล กราฟิกเลื่องชื่อ "จีฟอร์ซ" ตัวเครื่องมีหน้าจอ แสดงผล 5 นิ้ว ติดกับจอยแพด ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (เอ็นแก๊ดเจ็ต)
แอปเปิ้ลระส่ำ-ยอดขายไอโฟนดิ่ง ไอดีซีชี้'พิษเศรษฐกิจยุโรป'เจอ'แอนดรอยด์'รุม
เวนเจอร์ บีต เว็บไซต์ข่าวไอทีรายงานผลการศึกษาของบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์เปอเรชั่น (ไอดีซี) ของสหรัฐ พบยอดขายของ "ไอโฟน" จากบริษัทแอปเปิ้ล กำลังดิ่งลงอย่างหนัก โดยเฉพาะในทวีปยุโรปตะวันตกและประเทศอินเดีย ซึ่งเคยเป็นตลาดสำคัญของแอปเปิ้ล ซึ่งสาเหตุมาจากพิษวิกฤตเศรษฐกิจของยุโรป ทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้อ สมาร์ตโฟนที่มีราคาถูกลง รวมทั้งการบุกตลาดของ สมาร์ตโฟนในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิ้ล ส่งผลให้ยอดขายครึ่งปีแรกของแอปเปิ้ลในปี 2556 ลดลงอย่างมาก
ไอดีซี ระบุว่า ผลจากการสำรวจทั่วโลก แอปเปิ้ลกำลังสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่องให้กับ"แอนดรอยด์" โดยระบบปฏิบัติการไอโอเอสของแอปเปิ้ล มีสัดส่วนน้อยลงเหลือเพียงร้อยละ 20 ถือเป็นอัตราการลดร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปี2555 ขณะที่ยอดจำหน่าย ไอโฟนทั่วโลกครึ่งปีแรกของปีนี้ อยู่ที่ 6.2 ล้านเครื่อง ลดลงถึง 7 ล้านเครื่อง จากปี 2555
นายฟรานซิสโก เจโรนีโม จาก ไอดีซี กล่าวว่า หนึ่งในสาเหตุหลักที่แอปเปิ้ลสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในยุโรปตะวันตก เนื่องมาจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ หนี้เน่า ทำให้เก็บออมและหันไปซื้อสมาร์ตโฟนราคาถูกลง โดยขณะนี้ ถือเป็น "ยุคที่ 2 ของสมาร์ตโฟน" ในยุโรป กล่าวคือ สมาร์ตโฟนในระดับล่างและกลางจะเติบโต มากขึ้น
เวนเจอร์ บีต ระบุว่า ตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกในปี 2556 ล่าสุดเติบโตขึ้นร้อยละ 12 ในไตรมาสที่ 2 นั่นคือ มีสมาร์ตโฟนเพิ่มมากขึ้น 31.6 ล้านเครื่อง แต่ตัวเลข ดังกล่าวถือว่าเป็นตัวเลขการเติบโตที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2547 โดยในปีนี้ "ซัมซุง" เป็นผู้ "ผลิต" สมาร์ตโฟนออกวางจำหน่ายมากที่สุด คิดเป็น 14.3 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนของแอปเปิ้ล โซนี่ แอลจี และโนเกีย รวมกัน
เผยโฉม'เครื่องเคลือบกระจก'ไฮเทค บำรุงรักษากล้องดูดาวใหญ่สุดในอาเซียน-ใช้ปลายปี
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยโฉมเครื่องเคลือบกระจกฝีมือคนไทย ใช้เทคโนโลยีทันสมัยและขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กับสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) (สซ.) นำมาใช้บำรุงรักษากระจกกล้องโทรทรรศน์ 2.4 เมตร ของหอดูดาวแห่งชาติที่ อินทนนท์ ช่วยประหยัดงบประมาณสิบล้านบาท ขณะนี้ประกอบใกล้แล้วเสร็จ รอการทดสอบพร้อมใช้งานจริงปลายปีนี้
ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ กล่าวว่า กล้องโทรทรรศน์ที่ติดตั้งที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ที่ตั้งอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นกล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสง ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกระจก 2.4 เมตร เป็นกระจกกล้องโทรทรรศน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแต่ต้องมีการบำรุงรักษาและทำความสะอาดกระจกด้วยการเคลือบผิวกระจกด้วยอะลูมิเนียมอย่างน้อยทุกๆ 2 ปี ซึ่งหากสั่งซื้อจากต่างประเทศจะมีราคาไม่ต่ำกว่า 35 ล้านบาท สดร. จึงร่วมกับ สซ. ออกแบบและพัฒนาระบบเคลือบกระจก เพื่อผลิตเครื่องเคลือบกระจกขนาดใหญ่ที่มีเทคโนโลยีการเคลือบกระจกที่ทันสมัยและคุณภาพดีทัดเทียมกับการนำเข้าจากต่างประเทศ
ด้านนายสำเริง ด้วงนิล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาวิศวกรรม สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า เครื่องเคลือบกระจกที่ผลิตขึ้นนี้เป็นระบบสุญญากาศ ใช้หัวพ่นสารเคลือบชนิด Magnetron Sputtering ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การเรียงตัวของโลหะบนพื้นผิวกระจกมีความเรียบสม่ำเสมอ ควบคุมความหนาของชั้นโลหะให้มีความสามารถในการสะท้อนแสงได้ดี และยังสามารถเคลือบโลหะชนิดอื่นๆ เช่น ทองคำ ทองแดง และซิลิกาได้อีกด้วย"
ศ.น.ท.ดร.สราวุฒิ สุจิตจร ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการสร้างและประกอบชิ้นส่วนทั้งหมดใกล้เสร็จสมบูรณ์ร้อยละ 80 จากนั้นจะทดสอบการเคลือบโดยใช้กระจกจำลองลักษณะ รูปร่างคล้ายขนาดจริง หากเสร็จสมบูรณ์จะนำมาติดตั้งที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมใช้งานประมาณปลายปี 2556 นี้
รักษ์โลก
พระเอกฮอต "โป๊ป-ธนวรรธน์" ร่วมสร้างผลงานศิลปะในกิจกรรม "Green Life by PTT" ที่ ปตท.ร่วมกับ เว็บไซต์ www.mglobemall.com จัดขึ้นที่ปตท.สำนักงานใหญ่ ถ.วิภาวดีรังสิต
ฝึกซ้อม'ไทย' รับมือภัยนิวเคลียร์
สํานักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำทีมตอบโต้สถานการณ์วิกฤตการณ์ ด้านนิวเคลียร์และรังสี ร่วมกับหน่วยงานของทหาร 3 เหล่าทัพ และกรมควบคุมมลพิษ ดำเนินการฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2556 เมื่อ 25-27 มิ.ย. ที่จังหวัดระยอง เพื่อเน้นย้ำให้ประชาชนมีความมั่นใจในความพร้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินด้านนิวเคลียร์และรังสี
นายสุพรรณ แสงทอง เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กล่าวว่า สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย ได้มีการจัดการฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี 2556 ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เน้นการบริหารวิกฤตการณ์เพื่อรับมือภัยคุกคามต่างๆ โดยวางแผน และบูรณาการการฝึกของหน่วยงานต่างๆ ในกรอบแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ แผนป้องกันประเทศ แผนปฏิบัติการการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบบูรณาการระดับกระทรวง 17 ด้าน
นายสุพรรณกล่าวว่า ในส่วนของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เข้าร่วมการฝึกการบริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติครั้งนี้ โดยเป็นหัวหน้าทีมการตอบโต้สถานการณ์วิกฤตการณ์ ด้านนิวเคลียร์และรังสี ร่วมกับหน่วยงานของทหาร 3 เหล่าทัพ ได้แก่ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และกรมควบคุมมลพิษ
การฝึกซ้อมมีทั้ง การบัญชาการสถานการณ์บนโต๊ะ ซึ่งเป็นการตอบโต้สถาน การณ์โดยการวางแผนบนโต๊ะปฏิบัติการ และการฝึกซ้อมการเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่เกิดเหตุตามสถานการณ์การฝึก โดย ปส. เป็นหน่วยงานหลักในการปฏิบัติงาน 2 ส่วน คือ การฝึกซ้อมการตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสี และคัดกรองผู้อพยพในพื้นที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง และการฝึกซ้อม การตรวจวัดการเปรอะเปื้อนทางรังสีและการชำระล้างการเปรอะเปื้อนทางรังสี สำหรับ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและประชาชน ที่บริเวณเทศบาลตำบลบ้านเพ (ฝั่งศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งที่ 1)
"การเข้าร่วมฝึกครั้งนี้ ถือว่าเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์และรังสี และเป็นการสร้างเครือข่ายรองรับเหตุฉุกเฉินทางรังสี และเครือข่ายเฝ้าระวังภัยทางนิวเคลียร์รังสีของประเทศต่อไปอีกด้วย" นายสุพรรณกล่าว
Views: 6459
Only registered users can write comments. Please login or register. Powered by AkoComment Tweaked Special Edition v.1.4.6 AkoComment © Copyright 2004 by Arthur Konze - www.mamboportal.com All right reserved
<< หน้าแรก < ย้อนกลับ 31 หน้าถัดไป > หน้าสุดท้าย >> |