สาธารณสุขนิวยอร์ก เตรียมจำกัดปริมาณ เครื่องดื่มน้ำอัดลมให้ไม่เกิน 470 มล. อาจมีผลบังคับใช้ในเดือน มี.ค.ปีหน้า เป็นหนึ่งในมาตรการต่อสู้โรคอ้วนของสหรัฐฯ...
เมื่อ 13 ก.ย. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขนครนิวยอร์กประเมินแนวคิดจำกัดปริมาณเครื่องดื่มน้ำอัดลมให้ไม่เกิน 470 มล. ซึ่งให้พลังงาน 200 กิโลแคลอรี ตามภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และตามโรงภาพยนตร์จะผ่านการอนุมัติ และอาจมีผลบังคับใช้ในเดือน มี.ค.ปี 2556 ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมองถึงความเป็นไปได้ที่จะประสบผลสำเร็จในการแก้ปัญหาโรคอ้วนและโรคเบาหวาน ปัญหาด้านสุขภาพอันดับ 1 ของประเทศ โดยเฉลี่ย 1 ใน 3 คน เพราะนับแต่กลางยุค’70 ชาวอเมริกันดื่มน้ำอัดลมจากวันละ 200 เป็น 300 กิโลแคลอรีและขาดการออกกำลังกาย
ดร.เจฟฟรีย์ เมคานิค ศาสตราจารย์ประจำสถาบันการแพทย์เมาท์ ไซไน ซึ่งศึกษาถึงผลกระทบกับมาตรการของรัฐบาลครั้งนี้ว่า ยังมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ก่อให้เกิดโรคอ้วน ไม่ใช่เพียงแค่ชาวอเมริกันดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล มากเกินไป อีกทั้งมาตรการนี้ก็ไม่ได้ครอบคลุมถึงร้านขายของชำ และไม่รวมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจากการศึกษาพบว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใหญ่น้ำหนักเกินมากกว่า เช่นเดียวกับขนมของว่างอื่น
ขณะที่แมคโดนัลด์ ผู้ผลิตอาหารจานด่วนรายใหญ่สุดของสหรัฐฯ จะแจงปริมาณแคลอรีในทุกเมนูที่เสิร์ฟตามร้านและที่ขับรถสั่งทางหน้าต่าง 14,000 ทั่วสหรัฐฯ รวมเพิ่มรายการที่มีผักผลไม้มากขึ้นเพื่อให้ลูกค้าคำนวณอาหารที่บริโภคเข้าไป หลังตกเป็นเป้าการโจมตีว่านำเสนอเมนูไม่ดีต่อสุขภาพในช่วงที่โรคอ้วนคุกคามประเทศ.