ตัวอย่างดอกสมบูรณ์เพศ
ดอกไม้บางชนิดมีเกสรเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นซึ่งเรียกว่า ดอกไม่สมบูรณ์เพศเช่นดอกบวบ ดอกฟักทอง ดอกตำลึง เป็นต้น ดอกที่มีแต่เกสรตัวผู้รียกว่า ดอกตัวผู้และดอกที่มีแต่เกสรตัวเมียเรียกว่า ดอกตัวเมีย
ตัวอย่างของดอกไม่สมบูรณ์เพศ
ดอกไม้บางชนิดไม่มีกลีบดอก เช่น ดอกหน้าวัว ดอกคริสต์มาส บางชนิดมีกลีบดอกเล็ก ไม่เด่นออก มา เช่น ดอกเฟื่องฟ้า ดอกดอนย่า ดอกไม้เหล่านี้จะมีส่วนที่เป็นใบเปลี่ยนแปลงไปเหมือนกลีบดอก ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นกลีบดอกได้

การถ่ายละอองเรณู
การถ่ายละอองเรณู หมายถึง การที่ละอองเรณูที่แก่จัดแล้วปริแตกออกจากอับเรณู แล้วปลิวไปตกบนยอดเกสรตัวเมีย ซึ่งวิธีการนี้อาจจำแนกออกเป็น ๒ ประเภท คือ
1. การถ่ายละอองเรณูในดอกเดียวกัน เป็นการถ่ายละอองเรณูโดยละอองเรณูไปตกบนยอดเกสรตัวเมียภายในดอกเดียวกัน
2. การถ่ายละอองเรณูข้ามดอก เป็นการถ่ายละอองเรณูโดยละอองเรณูไปตกบนยอดเกสรตัวเมียของอีกดอกหนึ่ง
การถ่ายละอองเรณู เกิดขึ้นได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน โดยอาศัยลม น้ำ สัตว์บางชนิด เช่น นก แมลง และมนุษย์ เป็นต้น ช่วยในการถ่ายละอองเรณูการงอกของละอองเรณู เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย ซึ่งมีสารละลายน้ำตาลอยู่ สารละลายน้ำตาลจะทำให้ละอองเรณูงอกเป็นหลอดยาวแทงไปตามก้านเกสรตัวเมีย การงอกของละอองเรณู เมื่อละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย ซึ่งมีสารละลายน้ำตาลอยู่ สารละลายน้ำตาลจะทำให้ละอองเรณูงอกเป็นหลอดยาวแทงไปตามก้านเกสรตัวเมีย
ปัจจัยที่ช่วยในการถ่ายละอองเรณู
ปัจจัยที่ช่วยในการถ่ายละอองเรณู เพื่อให้พืชมีดอกเกิดการปฏิสนธิ สร้างผลและเมล็ดในการสืบพันธุ์ ได้แก่
1. ลม เป็นตัวช่วยพัดพาละอองเรณูให้ไปตกลงบนยอดเกสรตัวเมีย มักเกิดกับดอกที่มีขนาด มีน้ำหนักเบา ไม่มีกลิ่น และมีเป็นดอกจำนวนมาก เช่น ดอกของพืชตระกูลหญ้าชนิดต่าง ๆ
2. สัตว์ ได้แก่ แมลง ( ผึ่ง ผีเสื้อ ) นกบางชนิด ค้างคาวบางชนิด เป็นตัวช่วยให้เกิดการถ่ายละอองเรณู จากดอกหนึ่งไปยังอีกดอกหนึ่งได้ มักเกิดกับที่มีสีสวย มีกลิ่นหอม หรือมีต่อมน้ำหวาน ซึ่งเป็นตัวล่อให้สัตว์เหล่านี้เข้าหา
3. น้ำ อาจเป็นน้ำที่เรารดให้แก่พืชหรือน้ำฝนที่ตกลงมา จะเป็นตัวพาละอองเกสรตัวผู้จากดอกที่อยู่ด้านบน ให้ไปตกลงบนยอดเกสรตัวเมียของดอกที่อยู่ด้านล่างได้
4. คน ทำการถ่ายละอองเรณู เพื่อให้พืชเกิดการผสมพันธุ์ และได้พืชที่มีลักษณะพันธุ์ดีตามที่ต้องการ
การปฏิสนธิ
การ ปฏิสนธิ คือ การที่เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้เข้าผสมกับเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย โดยหลังจากที่ละอองเรณูตกลงบนยอดเกสรตัวเมียแล้ว ละอองเรณูจะงอกหลอดแทงลงไปในก้านเกสรตัวเมียจนถึงไข่อ่อน ( ออวุล ) ที่อยู่ภายในรังไข่ ภายในหลอดละอองเรณูจะมีเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้อยู่ ซึ่งจะเข้ามาไปผสมกับเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย(เซลล์ไข่ ) ที่อยู่ในไข่อ่อนโดยผ่านทางรูเปิดที่อยู่ข้างใต้ ได้เป็นเซลล์ใหม่อยู่ภายในไข่อ่อน ( เซลล์ใหม่ที่ได้ก็ คือเซลล์ที่จะเจริญเป็นต้นพืชต้นใหม่ )
การเปลี่ยนแปลงของดอกหลังปฏิสนธิ
หลัง จากการปฏิสนธิ ยอดและก้านชูเกสรตัวเมียจะเหยี่ยวลง กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมียก็จะแห้งแล้วร่วงหลุดไป ส่วนรังไข่ และ ออวุล หรือไข่ จะเจริญเติบโตต่อไป โดย รังไข่ จะเจริญกลายเป็น ผล ส่วน ออวุล หรือไข่ จะเจริญไปเป็น เมล็ด ซึ่งภายในเมล็ดจะเก็บต้อ่อน และอาหารสะสมไว้ภายใน เพื่อเกิดเป็นต้นใหม่
เมื่อ เมล็ดพืชแพร่กระจายไปในที่ต่าง และไปตกในที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการงอกของเมล็ด เมล็ดก็จะงอกเป็นต้นใหม่ต่อไป วิธีนี้ทำให้พืชดอกที่อยู่ตามธรรมชาติสามารถแพร่ได้โดยไม่สูญพันธุ์ไป
ข้อควรจำ....
- ภายหลังการปฏิสนธิซ้อน มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในของพืชดอกดังนี้- รังไข่ เจริญไปเป็น ผล
- ผนังหุ้มรังไข่ เจริญไปเป็น เปลือก เนื้อของผล
- ออวุล เจริญไปเป็น เมล็ด
- ไซโกต(ไข่+สเปิร์ม) เจริญไปเป็น ต้นอ่อน
- โพล่า นิวเคลียส + สเปิร์ม เจริญไปเป็น เอนโดรสเปิร์ม(อาหารเลี้ยงต้นอ่อน)
- ANTIPODAL และ SYNERGIDS สลายตัว
การเจริญเติบโตของพืชดอก
พืช ดอกแต่ละชนิดถ้าขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด จะเริ่มนับว่ามีต้นใหม่ตั้งแต่มี การงอกของต้นอ่อนในเมล็ด ถ้าขยายพันธุ์ด้วยวิธีอื่นโดยไม่ได้ใช้เมล็ด ก็เริ่มตั้งแต่การ เกิดรากของลําต้นที่แตกออกมาใหม่พืชที่งอกเป็นต้นอ่อนจากเมล็ดจะมีการเจริญ เติบโต อย่างมีขั้นตอนตามชนิดและพันธุ์ของพืช แต่เราก็พบอยู่เสมอว่า พืชชนิดเดียวกันปลูก พร้อม ๆ กัน มีบางต้นเจริญงอกงามดี โตเร็ว บางต้นเจริญเติบโตช้า ต้นเล็ก แคระแกร็น หรือบางต้นปลูกได้ไม่นานก็ตายที่เป็นดังนี้เพราะพืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้อง อาศัยปัจจัยในการ เจริญเติบโตอย่างเพียงพอ จึงจะดํารงชีวิตอยู่ได้เช่นเดียวกับคนและสัตว์ เมื่อเปรียบเทียบกับคน ปัจจัยที่สําคันในการดํารงชีวิตของคนคือปัจจัยสี่ ได้แก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ถ้าคนขาดปัจจัยสี่ การดํารง ชีวิตก็จะไม่เป็นสุข หากยิ่งขาดมากขึ้นก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้

ปัจจัยสําคัญในการดํารงชีวิตของพืชที่ทําให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างดี มี 4 อย่างคือ
1. นํ้าเป็นสิ่งจําเป็นสําหรับพืชตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่เริ่มตั้งแต่เมล็ดพืชขณะ จะเริ่มงอกต้นใหม่ ต้องอาศัยนํ้าให้ความชุ่มชื้น
2. อากาศ อากาศเป็นของผสมที่ประกอบด้อยก๊าชหลายชนิด เช่น ก๊าซออก ซิเจนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนเป็นต้น ก๊าซที่สำคัญสำหรับพืชมาก คือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะพืชต้องใช้เป็นวัตถุดิบในการสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างอาหาร
3. แสงแดด พืชส่วนใหญ่ต้องใช้แสงแดดมาช่วยในการสังเคราะห์แสง โดย เฉพาะพืชดอก ถ้าขาดแสงแดดก็จะสังเคราะห์ไม่ได้ทำให้ไม่มีอาหารไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของลำต้น ในที่สุดจะต้องเหี่ยวเฉาตายไป
4. แร่ธาตุ แร่ธาตุเปรียบเสมือนอาหารดิบที่ยังไม่ได้ปรุงให้ใช้แระโยชน์ได้ พืชได้แร่ธาตุส่วนใหญ่จากดิน ในลักษณะของสารละลายที่ปนขึ้นไปกับนี้ แต่ธาตุ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของพืชมีหลายชนิด แต่ที่มีความสำคัญมากมี 3 ชนิด คือธาตุ ไนโตรเจน ธาตุโพแทสเซียม และธาตุฟอสฟอรัส ถ้าพืชขาดแร่ธาตุอาหารดังกล่าวมาแล้วถ้าแม้จะมีน้ำ อากาศ แสงแดดอย่าง เพียงพอ พืชก็ไม่สามารถเจริญเติบโตได้และอาจตายได้ไปในที่สุด

นอกเหนือจากปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตของพืชที่สำคัญทั้ง 4 อย่าง คือ น้ำ อากาศ แสงแดด และแร่ธาตุ ยังมีปัจจัยอื่น ที่ช่วยให้พืชมีการเจริญเติบโตได้ดี เช่น อุณหภูมิที่พอเหมาะกับพืชแต่ละชนิดแต่ละพันธุ์ หากเรานำพืชในเขตหนาวไปปลูกในเขตร้อน การเจริญเติบโตก็จะไม่มี สภาพของดินที่เป็นดินร่วน ดินเหนียว ดินทราย ก็มีผลโดยตรงต่อ การเจริญของพืช
วีดีโอบรรยายธรรมชาติของดอกไม้